พระหางหมาก หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

พระหางหมาก หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
พระหางหมากหรือ หางพลู ของพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) นั้น เท่าที่มีการบันทึกไว้ กล่าวไว้ถึงกรรมวิธีในการสร้างว่า "เมื่อเสกหมากก่อนฉันแล้ว จึงนำหางพลูที่เหลือมาผสมกับผง ทำเป็นองค์พระ แล้วจึงนำเข้าพุทธาภิเษกอีกครั้ง" สำหรับพุทธานุภาพหรือผลที่ได้รับเมื่อบูชาพระหางหมากนั้น ต้องการให้ขอและใช้ในทางลาภผลมากที่สุด ส่วนอย่างอื่นนั้นก็สามารถขอท่านได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะให้ผลเป็นพิเศษสำหรับบุคคลผู้นำพระไปบูชาในรัศมีใกล้องค์พระ ผลจะบังเกิดเน้นหนักไปในทางเมตตา เข้าหาใกล้ชิดเจ้านายโดยเฉพาะการเจรจา คำพูดมีน้ำหนักเป็นที่จับใจคน ทั้งยังมีลาภสักการะเสมอกันกับพระคำข้าวเลยทีเดียว

พุทธลักษณะของพระหางหมาก เนื้อหามีสีเหมือนสีปูนกินกับหมาก คือสีที่เรียกกันว่า "สีโอลด์โรส" รูปสี่เหลี่ยม ภายในมีพระรูปแบบของหลวงพ่อพุทธโสธร ในพุทธกิริยาปางสมาธิ ประดิษฐานอยู่ ที่ฐานด้านล่างใต้ผ้าทิพย์ ปรากฏคำ "วัดท่าซุง" ส่วนบนที่ผนัง ทั้งด้านซ้ายและขวาขององค์พระมีอักขระตัว "อุ" ส่วนด้านหลังพระหางหมากนั้น มีลักษณะคล้ายกันกับพระคำข้าวคือ ภายในมีกรอบนูนอีกชั้นรูปพัดยศ รูปหลวงพ่อฤาษีลิงดำ นั่ง และตัวอักษร “ พระราชพรหมยาน” แต่ส่วนที่แตกต่างกันนั้นก็คือ ในพระคำข้าวจะมีเส้นมีลักษณะเป็นแอ่งลึกลงไปขนานไปกับกรอบรูปสี่เหลี่ยมขององค์พระ ส่วนพระหางหมากนั้นกรอบรูปสี่เหลี่ยมลึกลงไป แต่มีขนาดเล็กเพียงแค่พอล้อม กรอบนูนเท่านั้น และอีกประการก็คือ ในตำแหน่งถัดลงมาเหนือเส้นกรอบส่วนล่างจะปรากฏข้อความภาษาไทยว่า "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ"
องค์นี้เป็นพระแท้ดูง่าย ปิดทองมาเดิมจากวัด บางท่านเรียกพระที่มีลักษณะแบบนี้ว่า "พิมพ์กรรมการ"ก็มี อาราธนาขึ้นคอได้เลย
ทั้งพระหางหมากและพระคำข้าว นับเป็นของดีที่จัดอยู่ในประเภท "พระหลักพัน พุทธคุณหลักล้าน" แต่ในปัจจุบันจะหาพระหางหมากของแท้ที่อยู่ในสภาพเดิมและพิจารณาง่ายแบบแท้ตาเปล่า กลับไม่ใช่เรื่องง่ายนัก